ในกรณีที่ต้องการคอนฟิก MikroTik ที่ต่ออยู่หลังอุปกรณ์ ADSL Router, Firewall หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่สามารถปรับเป็น Bridge Mode ได้ (Behind NAT) ทำให้ไม่สามารถคอนฟิกพอร์ตของ MikroTik ให้เป็น PPPoE เราก็สามารถคอนฟิกให้ MikroTik แยกเป็นวงภายในขึ้นมาแล้วกำหนดค่าดังนี้
จากตัวอย่างดังรูปด้านบน ADSL Router จะเป็นหมายเลข 192.168.1.1/24 ดังนั้นเราจะกำหนดให้พอร์ต ether1 ของ MikroTik เป็นหมายเลข 192.168.1.10/24 ซึ่งจะอยู่ในวงเดียวกับ ADSL Router ถือเป็นพอร์ต WAN ของ MikroTik
ส่วนพอร์ต ether2-5 ของ MikroTik จะถูกกำหนดให้อยู่ใน bridge1 ทั้งหมด และจะกำหนดหมายเลข 192.168.10.1 ให้กับ bridge1 ซึ่งจะถือว่าเป็นพอร์ต LAN ที่ใช้ภายใน ดังนั้นคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ต่อผ่านทางพอร์ต 2-5 ใน bridge1 จะต้องกำหนดให้อยู่ในวง 192.168.10.0/24 (หรือจะกำหนดให้ bridge1 เป็น DHCP เพื่อแจกหมายเลขในวง 192.168.10.0/24 โดยอัตโนมัติก็ได้)
จากนั้นเมื่อกำหนด Interface ทั้ง ether1 และ bridge1 เสร็จแล้วก็จะทำ Route และ NAT เพื่อให้คอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่หลัง MikroTik (เครื่องที่อยู่ในวง 192.168.10.0/24) ออกอินเทอร์เน็ตได้
- คลิกเมนู Bridge แล้วสร้าง bridge1 ขึ้นมา จากนั้นคลิกแท็บ Ports แล้วกำหนดให้ ether2-5 อยู่ภายใน bridge1
2. คลิกเมนู IP > Addresses กำหนดหมายเลข 192.168.1.10/24 ให้กับพอร์ต ether1 และกำหนดหมายเลข 192.168.10.1/24 ให้กับ bridge1
3. คลิกเมนู IP > Routes ที่แท็บ Routes ให้คลิกเครื่องหมาย + จากนั้นที่หน้าต่าง Route ให้กำหนดค่าดังนี้
- ช่อง Dst. Address ให้กำหนดเป็น 0.0.0.0/0
- ช่อง Gateway กำหนดเป็น 192.168.1.1 (หมายเลข IP ของ ADSL Router)
เมื่อกำหนดค่าเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม OK
4. คลิกเมนู IP > Firewall แล้วคลิกแท็บ NAT จากนั้นคลิกเครื่องหมาย + ที่หน้าต่าง NAT Rule ให้กำหนดค่าดังนี้
- ช่อง Chain กำหนดเป็น srcnat
- ช่อง Out. Interface กำหนดเป็น ether1
เมื่อกำหนดค่าเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม Apply
5. คลิกแท็บ Action ที่ช่อง Action ให้เลือกคำสั่ง masquerade แล้วคลิกปุ่ม OK